|
EURO3 ทัวร์เยอรมัน-ออสเตรีย-เชค-ฮังการี 9 วัน 7
คืน TG ทางลัดไป:
[วันแรกฺ]
[วันที่สอง]
[วันที่สาม]
[วันที่สี่]
[วันที่ห้า]
[วันที่หก]
[วันที่เจ็ด] [วันสุดท้าย]
[วันเดินทางและราคา]
|
วันแรก
กรุงเทพฯ -
แฟรงเฟิร์ท (เยอรมัน)
|
11.00
น.
13.25
น.
19.50 น.
|
พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์
D16-19
สายการบินไทย
เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
ออกเดินทางสู่นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี
โดยเที่ยวบินที่
TG 924
คณะถึงสนามบินนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี
หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว
รถโค้ชนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
SHERATON MUNICH AIRPORT HOTEL
4*
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่สอง
นครมิวนิก-พัสเซา-เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองมรดกโลก
|
07.00
น.
08.00
น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางสู่เมืองพัสเซา (Passau)
เมืองพรมแดนระหว่างเยอรมนีและออสเตรีย
กล่าวกันว่าเมืองนี้เป็น เมืองสามแคว
แห่งแคว้นบาวาเรีย
เป็นจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำ 3 สายอันได้แก่ ดานูบ (Danube),
แม่น้ำอินน์ (Inn)
และแม่น้ำอิซ (Ilz) ครับ
เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของอดอฟ์ ฮิตเลอร์
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
โดยฮิตเลอร์และครอบครัวเคยอาศัยอยู่ในพัสเซาถึง 4 ปี
เที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมืองคือ วิหารเซนต์สตีเฟน
ผลงานมาสเตอร์พีซของศิลปินชาวอิตาลี
ซึ่งภายในวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เดินเที่ยวชมเขตเมืองเก่ากับเมืองใหม่
เก็บภาพความคลาสสิคของตึกรามบ้านช่องของเขตเมืองเก่าทั้งโกธิคและบาร็อค
รวมไปถึง Veste Oberhaus อดีตป้อมปราการของบิชอฟ
ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองพัสเซา
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่เมืองมรดกโลก
World Heritage
เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมียที่เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky
Krumlov)
เที่ยวชมเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปีค.ศ.1992
เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา
ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า
300 หลัง
ได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามา บนปราสาทครุม ลอฟ
ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
รองลงมาจากปราสาทปร๊าก
อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองโบราณตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
MLYN HOTEL
4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่สาม
เชสกี้ คลุมลอฟ -
เมืองน้ำแร่ คาร์โลวี วารี - กรุงปร๊าก
|
07.00
น.
08.00
น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางสู่เมืองคาร์โลวี วารี
หรืออีกชื่อหนึ่งคือเมืองคาร์ลบาด
เป็นเมืองที่มีการค้นพบน้ำแร่โดยพระเจ้าคาร์ลที่ 4
ที่ดำรงตำแหน่งเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมเมืองน้ำแร่แสนสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโบฮีเมีย
ลักษณะเมืองอยู่ในหุบเขาสองฝั่งแม่น้ำเทปลา
ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ค้นพบแหล่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ
และมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 12 แห่ง
ที่ร้อนที่สุดอยู่ในศูนย์นิทรรศการที่มีความร้อนถึง 72
องศาเซลเซียส ภายในจัดแสดงสายน้ำแร่
นักท่องเที่ยวสามารถชิมน้ำแร่ด้วยถ้วยชิมเฉพาะพิเศษ
ที่ทำจากพอร์ซเลนในเมืองนี้เท่านั้น
เมืองนี้เป็นที่นิยมในการเข้าคอร์สสปาเพื่อรักษาสุขภาพ
เดินเที่ยวชมเมืองตึกอาคารเรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม
เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง
ร้านค้าเรียงรายตลอดสองข้างทาง
อิสระให้ท่านซื้อของที่ระลึกหรือหาซื้อเหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง
Becherovka
โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตจากสมุนไพรเป็นของที่ระลึก
จนได้เวลาอันสมควรออกเดินทางต่อสู่กรุงปร๊าก
เมืองแห่งปราสาทร้อยยอด
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
S.E.N. HOTEL
5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่สี่
ปราสาทปร๊าก
เที่ยวชมเขตเมืองเก่า
สะพานชาร์ล - นาฬิกาดาราศาสตร์
|
07.30
น.
08.30 น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก
สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่
11 ด้วยศิลปะแบบกอธิค
ในปัจจุบันได้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ค
ชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท และโบสถ์เซนต์ไวตัส
ที่เด่นเป็นสง่า เขตโกลเด้นเลน
ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน
เพื่อเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ ให้เป็นทองคำ
จากนั้นนำท่านเดินสู่สะพานชาร์ล
สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่
ประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28
องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้
ต้องขอพรจากนักบุญจอหน์แห่งเนโปมุข กรุงปร๊ากในยุคกลาง
เคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ริมฝั่งแม่น้ำวัลตวา
ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า,
พิพิธภัณฑ์,
หอคอยดินปืนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่จตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของวิหารตินส์
ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องแก้วโบฮีเมีย
โมเซอร์
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและ
นำท่านไปชมนาฬิกาโบราณ
เมื่อตีบอกเวลาจะมีหุ่นออกมาเต้นรำให้นักท่องเที่ยวได้ชม
เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก
อิสระให้ท่านได้มีเวลา
ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย อาทิ
มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ หรือร้านค้าแบรนด์เนมอื่นๆใน
Palladium Shopping Mall
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
HILTON HOTEL PRAGUE 5*
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่ห้า
กรุงปร๊าก - บราติสลาวา (สโลวัค) - บูดาเปสต์ (ฮังการี)
|
07.00
น.
08.00
น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางสู่กรุงบราติสลาวานครหลวงแห่งสาธารณรัฐสโลวัค
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่สุดของสโลวัค
เป็นที่ตั้งของรัฐสภา,
มหาวิทยาลัย,
พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งโรงละคร
ที่มีการขยายเมืองอย่างไม่หยุดยั้ง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านขึ้นสู่ที่ตั้งของปราสาทแห่งกรุงบราติสลาวา
ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียนเหนือลุ่มแม่น้ำดานูบ
อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพสวยจากด้านนอกของตัวปราสาท
ตัวอาคารมีหอคอยสูง 80 เมตรทั้ง 4 ด้าน
ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบกอธิค,เรอเนสซองส์และบาร็อค
จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชมเมืองในเขตจัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี
อิสระให้ทุกท่านได้เก็บภาพประทับใจก่อนอำลาเมือง
เพื่อเดินทางสู่นครบูดาเปสต์
เมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำดานูบแยกเป็นเมืองเก่า
และใหม่ อันได้แก่เมืองบูดา และเปสต์
อันเป็นที่มาของคำว่าบูดาเปสต์
จากนั้นชมนครที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า
ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
MARRIOTT HOTEL BUDAPEST 5*
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่หก
บูดาเปสต์ -
ล่องเรือแม่น้ำดานูบ - เวียนนา (ออสเตรีย) -
หมู่บ้านกรีนซิ่ง
|
07.00 น.
08.00 น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เที่ยวชมนครบูดาเปสต์ นำชมจตุรัสฮีโร่
ที่รำลึกถึงการสร้างชาติ
และการรอดพ้นจากการปกครองแบบคอมมิวนิสต์
จากนั้นเลาะเลียบผ่านสวนสัตว์
และสวนสาธารณะอันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง
ที่อาบน้ำสาธารณะแบบโรมัน
ผ่านชมอาคารรัฐสภาที่สร้างในสไตล์แบบกอธิค
โดดเด่นเป็นตระหง่าน แล้วข้ามสู่ฝั่งบูดา
เพื่อขึ้นชมป้อมชาวประมง และโบสถ์แมทเธียส
เลาะเลียบสู่คาสเซิลฮิลล์
ชมทิวทัศน์ของเมืองที่ถูกแยกออกเป็นสองฝั่ง
แล้วนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด
จำหน่ายเป็นของฝาก อาทิ ผ้าปัก
เครื่องแก้วของที่ระลึกต่างๆ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ
ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค
เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย
และรับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติก
บนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก
ได้เวลาอันสมควรออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา นครหลวงแห่งดนตรี
เมืองหลวงอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า
1,000
ปี
ศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิออสโตร-ฮังกาเรียน
นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกรีนซิ่ง
หมู่บ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทำไวน์สด
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
AUSTRIA TREN SAVOYEN HOTEL
4*
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่เจ็ด
กรุงเวียนนา - พระราชวังเชิงบรุนน์
ภูมิภาคซาลส์กัมเมอร์กูท
|
08.00
น.
09.00
น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเข้าชมความงามของพระราชวังเชิงบรุนน์
พระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์
เข้าชมภายในกว่า
20
ห้องที่จัดแสดงไว้อย่างน่าชม ผ่านห้องทรงงาน ห้องบรรทม
ห้องแกลลอรี่ ห้องรับรอง (Great Hall)
สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก
เข้าสู่ริงสตราเซ่
ถนนสายวงแหวนที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ
โรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่ และยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต
และโอเปร่าตลอดปี พระราชวังฮอฟบูรก์อันยิ่งใหญ่
ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ทำการสำคัญของรัฐ
ใกล้กันเป็นโรงเรียนสอนขี่ม้าแบบสเปน
แล้วผ่านไปชมอาคารรัฐสภา ซิตี้ฮอลล์
ก่อนจะข้ามแม่น้ำดานูบสู่เขตเมืองใหม่
อันเป็นที่ตั้งขององค์การสหประชาชาติแห่งที่สองของยุโรป
ให้ท่านได้ชมสายแม่น้ำดานูบใหม่และเก่าที่มีความสำคัญต่อหลายประเทศในยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งในย่านถนนคนเดินคาร์ทเนอร์สตรีท
ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมในการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้
และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของเวียนนา
สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ภูมิภาคซาลส์ซัมเมอกูท
ที่มีทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กังเป็นเสน่ห์อันน่าติดตรึง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
THE WHITE HORSE INN
4*
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
|
|
วันที่แปด
ทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กัง-ฮัลล์สตัทท์-
ซาลส์บวร์กกลับกรุงเทพฯ
|
07.30
น.
08.30 น.
เที่ยง
บ่าย
15.30
น.
เย็น
19.00 น.
21.50 น.
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt)
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี
เดินเที่ยวชมเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด
กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน
Salzkammergut
เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง
ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย
และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO
Cultural-Historical Heritage
เพียงเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
แล้วเดินทางต่อสู่เมืองซาลส์บวร์ก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เที่ยวชมเมืองซาลส์บวร์ก
เมืองที่มีชื่อเสียงจากการใช้สถานที่ต่างๆของเมืองในการถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อก้องโลก
เดอะซาวด์ออฟมิวสิค
เมืองที่แสนโรแมนติก
ที่มีทะเลสาบและภูเขาเป็นฉากสวย
บ้านเกิดของคีตกวีเอกโมสาร์ต
เมืองอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำซาลซ่า
ชมสวนมิราเบล ภายในพระราชวังเดิม
ที่ตกแต่งพันธุ์ไม้หลากหลายสีสัน
ข้ามฝั่งสู่เมืองเก่าที่มีปราสาทโฮเฮนซาลส์บวร์กตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา
แล้วผ่านไปชมบ้านเกิดคีตกวีเอกของโลกชาวออสเตรียน โมสาร์ต
ที่สร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย
นำท่านไปชมมหาวิหารประจำเมือง มหาวิหารแห่งซาลส์บวร์ก
ที่สร้างขึ้นจากความร่ำรวยที่เกิดจากการทำเหมืองเกลือ
ถนนเกรไทรเด้ที่มีชื่อเสียง
ประดับประดาได้ด้วยป้ายบอกชื่อร้านค้าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น
ออกเดินทางสู่นครมิวนิก
ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป
เมืองมิวนิกหลากหลายด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง
อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางสู่สนามบินนครมิวนิก
เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ
TAX REFUND
คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่
TG 925
|
|
|
13.40
น.
|
สายการบินไทยนำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
โดยสวัสดิภาพ
|
|
|
|
กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่ราคา ท่านละ |
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี มีเตียงเสริมพักกับ ผู้ใหญ่ 2 ท่าน |
เด็กอายุต่ำ กว่า12 ปีไม่มี เตียงเสริม |
พักเดี่ยวจ่าย
เพิ่มท่านละ |
|
|
|
|
|
**วันที่ออกกรุ๊ปเซ็คที่เซลล์** |
|
|
|
ด้านบน |
|
|
1.
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ รวมค่าภาษี
และส่วนเพิ่มของน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว
2.
ค่าพาหนะท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่ระบุ
3.
ค่าเข้าปราสาทกรุงปร๊าก,
ค่าเรือล่องแม่น้ำดานูบ,
ค่าเข้าพระราชวังเชิงบรุนน์
4.
โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ
เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ
2
ท่าน)
5.
ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
คัดสรรเมนูและให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
6.
ค่าทิปพนักงานขับรถท่องเที่ยวตามโปรแกรมตลอดการเดินทาง
7.
ค่าธรรมเนียมวีซ่าออสเตรีย (เชงเก้น)
8.
ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว
และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
1
ท่าน
9.
ค่าประกันการเดินทาง
PLAN B.
(อายุ
15-75 ปี) ของ บ. นิวแฮมเชอร์ อินชัวรันส์ จก.
ในกรณีอายุนอกเหนือจากที่ระบุจะเป็น
PLAN
C.
แทน
10.
ค่ายกกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ
1
ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20
กิโลกรัม ส่วนกระเป๋าใบเล็กอยู่ในความดูแลของท่านเองไม่เกิน
7
กิโลกรัม
|
|
1.
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
2.
ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
3.
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์,
ค่าซักรีด,
ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก
และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่
สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากที่ทางบริษัทจัดให้
ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ เช่น หากท่านทานได้เฉพาะอาหาร
ทะเลเพียงอย่างเดียว ท่านต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
|
|
เอกสารประกอบการขอวีซ่า
1.
พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ และมีอายุไม่ต่ำกว่า 6
เดือนก่อนวันหมดอายุ
หากมีพาสปอร์ตเล่มเก่าไม่ว่าจะเคยมีวีซ่าในกลุ่มประเทศเชงเก้นหรือประเทศอื่น
ควรนำไปแสดงด้วยเพื่อเป็นการง่ายต่อการอนุมัติวีซ่า
2.
รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบพื้นหลังเป็นสีขาว
(ไม่ใช่รูปขาวดำและห้ามสแกน) ควรมีอายุไม่เกิน 6
เดือนและเหมือนกันทั้ง 2 รูป
3.
สำเนาทะเบียนบ้าน /สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
/สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล /สำเนาทะเบียนสมรส
,
หย่า / สำเนาสูติบัตร ในกรณีอายุไม่ถึง 20
ปีบริบูรณ์
4.
หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท /
สังกัดที่ท่านทำงานอยู่ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นโดยระบุตำแหน่ง,
อัตราเงินเดือนในปัจจุบัน,
วันเดือนปีที่เริ่มทำงานกับบริษัทนี้และช่วงเวลาที่ขอลางานเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว
หลังจากนั้นจะกลับมาทำงานตามปกติหลังครบกำหนดลา
5.
กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ ขอใบทะเบียนการค้า
,ใบทะเบียนพาณิชย์
และหนังสือรับรองบริษัทที่คัดไว้ไม่เกิน 6 เดือน
พร้อมวัตถุประสงค์ หรือใบเสียภาษี และหลักฐานการเงินของบริษัทฯ
ย้อนหลัง 6 เดือน
6.
หนังสือรับรองจากทางธนาคาร
และแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6
เดือนต้องอัพเดทเป็นเดือนปัจจุบัน
ควรเลือกเล่มที่มีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ และมีจำนวนไม่ต่ำกว่า
6 หลัก
เพื่อให้เห็นว่ามีฐานะการเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อนเมื่อกลับสู่ภูมิลำเนา
ในกรณีที่เดินทางเป็นครอบครัวหากใช้บัญชีใดบัญชีหนึ่งในการยื่นขอวีซ่า
ต้องออกหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในครอบครัวด้วย
***สถานทูตไม่รับบัญชีกระแสรายวัน***
7.
กรณีที่บริษัทของท่าน
เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้เดินทางทั้งหมดนอกเหนือจากเอกสารข้อ
1 6แล้ว
ทางบริษัทจะต้องออกจดหมายอีกหนึ่งฉบับเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่าย
และการกลับมาทำงานของท่าน
โดยระบุชื่อผู้เดินทางและเหตุผลที่จัดการเดินทางนี้ในจดหมายด้วย
8.
กรณีที่เป็นนักเรียน นักศึกษาจะต้องมี
หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา ตัวจริง
9.
กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เดินทางไปกับบิดา หรือมารดา
ท่านใดท่านหนึ่ง จะต้องทำจดหมายยินยอม โดยที่บิดา,
มารดา
จะต้องไปยื่นเรื่องแสดงความจำนงในการอนุญาตให้บุตรเดินทางไปกับอีกท่านหนึ่งได้
ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขต โดยมีนายอำเภอ
หรือผู้อำนวยการเขตลงลายมือชื่อ
และประทับตรารับรองจากทางราชการอย่างถูกต้อง
10.
การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตาม อาจจะถูกระงับ
มิให้เดินทางเข้าประเทศเป็นการถาวร
และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่า
สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชำระไปแล้ว
และหากต้องการขอยื่นคำร้องใหม่ ก็ต้องชำระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง
11.
หากสถานทูตมีการสุ่มเรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัทฯ
ขอความร่วมมือในการเชิญท่านไปสัมภาษณ์ตามนัดหมาย
และโปรดแต่งกายสุภาพ ทั้งนี้บริษัทฯ
จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวก และประสานงานตลอดเวลา
และหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติม ทางบริษัทฯ
ใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสารดังกล่าวเช่นกัน
12.
กรณีที่ท่านยกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯ
ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูต ยกเลิกวีซ่าของท่าน
เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศ
จะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ
13.
ทางสถานทูตไม่มีนโยบายในการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับผู้ร้องขอ
หากท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด
ก็ตาม ท่านไม่สามารถเรียกร้องคืนค่าวีซ่าได้
|
|
|
|
|