|
วันแรก
กรุงเทพฯ เกาหลี |
23:30น.
|
พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 เคาน์เตอร์ 7 เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่องพร้อมเดินทางไปกับคณะทัวร์เพื่อให้บริการตลอดรายการ
|
|
วันที่สอง
เกาหลี - ฮาร์บิ้น - เกาะพระอาทิตย์ - สวนสตาลิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย เทศกาลโคมไฟ |
01.45น.
08.30น.
12.20น.
13.50น.
เที่ยง
ค่ำ |
ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง สู่สนามบินอินชอน โดยสายการบิน ASIANA เที่ยวบินที่ OZ344
ถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เพื่อรอการเปลี่ยนเครื่อง
เดินทางสู่เมืองฮาร์บิ้น เที่ยวบินที่ OZ339
ถึงเมืองฮาร์บิ้น เมืองหลวงของมณฑลเหอหลงเจียง มณฑลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซงฮัว ทางตอนใต้ของมณฑลมีพื้นที่รวม 1,637 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันเมืองฮาร์บิ้นเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเมืองหนึ่งของจีนมีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางรถไฟและทางหลวง รวมถึงอากาศ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางชม "ไท่หยางต่าว" หรือเกาะพระสุริยันต์ เกาะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซงฮัว มีเนื้อที่ประมาณ 3,800 เฮคเตอร์ ชมความงามตามธรรมชาติของเมืองชนบทที่เงียบสงบและมีเสน่ห์ นับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ใหญ่ที่สุดของฮาร์บิ้น ในฤดูร้อนที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้หนาแน่น ล้อมรอบด้วยน้ำสีฟ้าและหาดทรายขาวสะอาดมีหญ้าสีเขียวสด แล้วนำท่านชม "ซื่อต้าหลินกงหยวน" หรือ สวนสตาลิน ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1953 เพื่อป็นหลักฐานถึงสัมพันธภาพอันดีต่อกันในขณะนั้นระหว่างสองชาติมหาอำนาจแห่งโลกคอมมิวนิสต์ ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นสวนพฤกษาชาติที่ถูกจัดวางในสไตล์รัสเซีย และตกแต่งด้วย ต้นไม้,แปลงดอกไม้ และชุดสลักหิน นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมทัศนียภาพของม่น้ำซงฮัวซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วยจากนั้นนำท่านชม "ฝั่งหง จี้เนี่ยนถ่า" ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณฝั่งแม่น้ำซงฮัว เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงความพยายามของชาวเมืองฮาร์บิน ที่พยายามต่อสู้กับอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1957 ตัวอนุสาวรีย์สูง 13 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 และต่อมาในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ 1998 ก็ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่กว่าขึ้นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการต่อเติมอนุสาวรีย์ขึ้น เพื่อระลึกถึงหายนะครั้งนี้ด้วยจากนั้นนำท่านชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย 1 ในโบสถ์คริสต์ 17 แห่ง ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรม รัสเซียที่ได้เข้ามามีอิทธิพลในฮาร์บิ้น ซึ่งโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่สร้างขึ้นใน ปี ค.ศ 1907 ภายหลังจากที่ทหารรัสเซียต้องประสบกับความพ่ายแพ้ใน สงครามรัสเซีย - ญี่ปุ่น (ค.ศ1904-1905) โดยชาวรัสเซียได้สร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งพิงทางใจ และสร้างกำลังขวัญแก่กองทหารรัสเซียที่เข้ามาประจำอยู่ ณ ที่นี้ ได้ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งย่าน "จงยางปู้สิงเจีย" หรือถนนจงยาง เชิญท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าของฝากและของที่ระลึก ณ ย่านการค้า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านชมความงามของโคมไฟน้ำแข็ง ในงานเทศกาล "ปิงเติงเจี๋ยะ"หรือเทศกาลโคมน้ำแข็ง ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่มีชื่อเสียงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกภายในงานท่านจะได้ชม โคมไฟน้ำแข็ง สลักหลากหลายรูปแบบตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน การแกะสลักน้ำแข็งจากทั่วโลก ตลอดจนเมืองน้ำแข็งที่สร้างขึ้นจากก้อนน้ำแข็งที่ตัดมาจาก แม่น้ำชงฮัว เช่น หอคอย ปราสาท และสถานที่มีชื่อเสียงต่างๆ ที่ถูกประดับประดาด้วยแสงสีอย่างงดงามตระการตา แล้วนำท่านเข้าสู่ที่พัก พักที่
ด้านบน |
|
วันที่สาม
แม่น้ำชงฮัวเจียง - ฉางชุน -
โงถ่ายภาพยนตร์ - พระราชวังเว่ยหวังกง |
เช้า
เที่ยง
ค่ำ |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
แล้วนำท่านชมความงามของ "ชงฮัวเจียง"แม่น้ำน้ำแข็ง บริเวณทางตอนเหนือของเมืองฮาร์บิ้น ซึ่งจับตัวกลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว จนมีความหนาถึง 1 เมตร ที่เหมาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมหลากหลายอย่างยิ่งกับกิจกรรมหลากหลายชนิด บนลานน้ำแข็ง ท่านจะได้ชมการละเล่น เช่น สเก็ตน้ำแข็ง เลื่อนหิมะ กาะเจาะน้ำแข็งเป็นสระน้ำ พร้อมชมโชว์การว่ายน้ำท่ามกลางอุณหภูมิติดลบกว่า 30 องศา แล้วนำท่านเดินทางสู่เมืองฉางชุน (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) โดยรถโค้ชปรับอากาศ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่าน เดินทางสู่ เมืองฉางชุน เมืองหลวงมณฑลจี๋หลิน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอี้ทง เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเคยถูกตั้งให้เป็นเมืองหลวงของ " แมนจูกัว " ซึ่งเป็นรัฐที่เป็นหุ่นเชิดของญี่ปุ่น โดยใช้ชื่อว่าเมืองซินจิง (เมืองหลวงใหม่) ในสมัยจักรพรรดิ์ปูยี จักรพรรดิ์องค์สุดท้ายของจีน ปัจจุบันภายในเมืองยังคงเหลือร่องรอยการวางผังเมืองแบบญี่ปุ่นให้เห็น เช่น ตามถนนสายต่างๆที่ยาวเหยียดเป็นเส้นตรง ฉางชุนยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งในด้านการผลิตรถยนต์ และได้ชื่อว่าเป็น "เมืองป่า" เนื่องจากมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่หลายแห่ง แล้วนำท่านชม วังปูยี หรือพระราชวังเว่ยหวังกง ที่ประทับของจักรพรรดิ์ปูยี จักพรรดิ์องค์สุดท้ายแห่งราชวงค์ชิง หรือกษัตริย์องค์สุดท้ายของแผ่นดินจีนอาศัยอยู่ในช่วงปี ค.ศ.1949 ซึ่งญี่ปุ่นยึดครองแผ่นดินจีน และเพื่อลดแรงเสียดทานจากประชาชนจีนก่อตั้งแมนจูกัว และยกฐานะให้ปูยีขึ้นมาเป็นจักพรรดิ์กังซีแห่งแมนจูกัวปกครองที่เว่ยหวังกง นอกจากห้องหับต่างๆ ที่ปูยีเคยใช้นอน นั่งสูบยา อ่านหนังสือ คอยการงาน และปลีกวิเวกอยู่คนเดียว ก็มีรูปภาพและจดหมาย แสดงให้เห็นภาพในช่วงนั้น และจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงความเป็นอยู่ภายในวัง ในช่วงปลายทศวรรตที่ 50 ปูยีได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นคนสวนที่มหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ก่อนจบชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี ค.ศ. 1965 จากนั้นเที่ยวชม อดีตทำเนียบรัฐบาล และที่ทำการต่างๆ ของรัฐบาลจีนที่ญี่ปุ่นจัดขึ้นในช่วงสงครามเพื่อสะดวกในการวางอำนาจปกครองของชาวจีน จากนั้นชม โรงถ่ายภาพยนต์ฉางชุนฟิลม์สตูดิโอ ฉางชุนได้ชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมภาพยนต์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโรงถ่ายทำภาพยนต์ขนาดใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะฉางชุนฟิลม์สตูดิโอใกล้กับสวนทะเลใต้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร แล้วนำท่านเข้าสู่ที่พัก
ด้านบน |
|
วันที่สี่
ฉางชุน - เกาหลี ทงแดมุน |
เช้า
12.20น.
15.20น.
ค่ำ |
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
เหิรฟ้าสู่กรุงโซล โดยสายการบิน ASIANA AIRLINES (OZ) เที่ยวบินที่ OZ338
ถึงสนามบินอินชอน หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว สู่กรุงโซล นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้ง ตลาดทงแดมุน ซึ่งเป็นตลาดผ้าค้าส่ง มีทั้งผ้าตัดสูทผ้าชิ้นสำหรับตัดเสื้อผ้าสำเร็จรูป สูท ท่านชาย กระโปรงอัดพรีท เนคไท และผ้าพันคอ รองเท้า ถุงเท้า อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ในครัวเรือน ให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (ไก่ตุ๋นโสม อาหารบำรุงสุขภาพ ซี่งเสริฟในหม้อดินท่ามกลางน้ำซุปที่กำลังเดือด พิถีพิถันด้วยการเลือกไก่ขนาดเหมาะผ่านการเลี้ยงจนอายุได้ 45 วัน นำมาทำความสะอาดแล้วนำมาตุ๋นยาจีน) จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก พักที่ NEW RASUNG HOTEL หรือเทียบเท่า
ด้านบน |
|
วันที่ห้า
สกีรีสอร์ท - ล็อตเต้เวิลดิ์ ถนนอิเทวอน |
เช้า
เที่ยง
ค่ำ |
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านสู่สานหิมะ ยางจิ สกีรีสอร์ท เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม จนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนและตากอากาศ ให้ท่านสนุกสนานกับการเล่นสกี ,กระดานเลื่อนหิมะ ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึก (ขอรับคำแนะนำการเล่นจากไกด์ท้องถิ่น)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (หมูย่างเตาถ่านแบบดั้งเดิม)
แล้วนำท่านสู่ดินแดนแห่งความสนุกสนานกับความไฮเทคในรูปแบบใหม่ที่ สวนสนุกล็อตเต้เวิลดิ์ สวนสนุกในร่มที่ใหย๋ที่สุดในเกาหลี สนุกสนานกับเครื่องเล่นหลากชนิดทั้งในร่มและกลางแจ้งไม่ว่าการผจญภัยกับโลกของซินเบต หอคอย โรงหนังสามมิติ ไวกิ้ง รถรางรถไฟ ชมความงามของสวนสนุกทั้งภายในและนอกอาคาร เกมส์การระเล่นต่างๆ ขบวนพาเหรด โชว์ต่างๆ ตลอดจนร้านขายอาหาร ร้านขายของที่ระลึก (รวมบัตรเข้าชมและเครื่องบัตรเครื่องเล่น 3 ใบ) นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่ ถนนอิเทวอน เพื่อเลือกสินค้าคุณภาพดีราคาไม่แพงที่วางขายอยู่ ตลอดฝั่งถนน เชิญท่านเลือกซื้อเครื่องหนัง อาทิ เข็มขัด อุปกรณ์กอล์ฟ และ ของที่ระลึก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร แล้วนำท่านเข้าสู่ที่พัก
พักที่ NEW RASUNG HOTELหรือเทียบเท่า
ด้านบน |
|
วันสุดท้าย
โซล - พระราชวังเคียงบ๊อก - พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน - ตลาดทงแดมุน
|
เช้า
เที่ยง
17.10น.
21.10น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านชมบรรยากาศยามเช้าของเมืองหลวงของเกาหลี นำท่านผ่านชมตึก 63 ชั้น ตึกที่สูงที่สุด นำท่านชม พระราชวังเคียงบ๊อก สร้างขึ้นในปี ค.ศ 1394 สมัยราชวงศ์โซซอน แล้วนำท่านชม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ของเกาหลี ซึ่งจำลองชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนวัฒนธรรมอันเก่าแก่จากนั้น นำท่านผ่านถนน สายสำคัญของกรุงโซล ผ่านชม ทำเนียบของประธานาธิบดี คนปัจจุบัน จากนั้นนำท่านไปยังโรงงานพลอยสีม่วงสีม่วง AMETHYEST FAXTORY ชมพลอยนำโชคของชาวเกาหลี ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในประเทศเกาหลี คนเกาหลีเชื่อว่าเป็นพลอยนำความสุข
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านชมศูนย์โสมของรัฐบาลเกาหลี ซึ่งเป็นโสมที่รัฐบาลรับรองคุณภาพและมีราคาถูกกว่าเมืองไทยถึง 2 เท่า แล้วนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OZ341
เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ด้านบน |
|
|