|
วันแรก
กรุงเทพฯ
หลวงพระบาง
พระราชวังเก่า
พระธาตุภูษี
|
09.30 น.
11.40 น
13.40 น.
บ่าย
18.30 น.
ค่ำ
|
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ F แถวที่1-9 สายการบิน บางกอก แอร์เวยส์ ( PG )
ออกเดินทางโดย สายการบิน บางกอก แอร์เวยส์ เที่ยวบินที่
PG 943 มุ่งสู่ เมืองหลวงพระบาง
เดินทางถึงสนามบิน เมืองหลวงพระบาง ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้วเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
นำท่านเข้าชม
พระราชวังเก่า
(Royal Palace Museum)
เป็นวังที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518
พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย
หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี
ห้องท้อง
พระโรงทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ
จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่ายและ
นำท่านนมัสการหอพระบาง
ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง
เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปรางค์ห้ามสมุทร
เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก.
ประกอบด้วยทองคำ 90%
และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4
องค์ประดิษฐานอยู่
จากนั้นนำท่านไปนมัสการ
วัดใหม่สุวันพูมา
(Mai Suwannaphumaram Temple)
ซึ่งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวง
สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท ในปี พ.ศ.2337
หรือชื่อสั้นๆว่า วัดใหม่
วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสัฆราช
บุญทัน
นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว
มีอุโบสถที่สวยงามด้วยศิลปะแบบ อูบมุง
และปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม
จากนั้นตรงข้ามพระราชวังนำท่านเดินขึ้นบันได 328
ขั้นสู่ พระธาตุภูษี
(Phou Si Mountian)
สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา
ภูษีนี้ หมายถึง
ภูศรี
คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง
ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ
มองเห็นวัด บ้านเรือน
ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน
ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ
ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง
ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด
7 ชั้นสูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ
แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง
มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ
สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอยเลยทีเดียว
ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์ทิ้งดวงยอมเย็นที่นี่เพื่อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม
The Grand Luangprabang ระดับ
4 ดาว หรือ เทียบเท่า
รับประทานอาหารเย็น ณ
ร้านอาหารมีชัยผล
|
|
วันที่สอง
ถ้ำติ่ง - บ้านซ่างไห - น้ำตกตาดกวงสี -
บ้านผานม - ตลาดมืด
|
07.00 น.
08.00 น.
เที่ยง
บ่าย
ค่ำ
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ ท่าเรือหน้าวัดเชียงทอง
เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง
ถ้ำติ่ง
(Ting
Cave)
ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่
2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60
เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย
มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน
มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน
จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น
ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง
สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน
เทวดาผาติ่ง
ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา
และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ
บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง
มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว
จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก
ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน
วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ
ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน
อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว
ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารวิชุน
นำท่านเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท
ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่
น้ำตกตาดกวงชี
(Kuang Xi Waterfall)
ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง
ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ
อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร
มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ
น้ำตก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับหลวงพระบาง
โดยแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม
เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม
อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต
ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก
และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า
และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารอินโดชัยน่า
หลังอาหารท่านสามารถเดินเที่ยวชม
ถนนข้าวเหนียว ของหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืด
เลือกซื้อสินค้า
พื้นเมืองไว้เป็นของฝากหรือเป็นที่ระลึก
***
อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ***
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม The
Grand Luangprabang ระดับ
4 ดาว หรือ เทียบเท่า
|
|
วันสุดท้าย
วัดเชียงทอง
วัดวิชุนราช - หลวงพระบาง
กรุงเทพฯ
|
05.00 น.
07.00 น.
08.00 น.
11.00 น.
14.30 น.
16.25 น.
|
ตื่นเช้าซักหน่อยร่วม ทำบุญ-ตักบาตร
กับชาวหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากัน
ออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เดินเรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ
รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวา
ของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข
และความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนา
ที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง
(เป็นการตักบาตรข้าวเหนียว และ อาหารแห้ง)
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชม
วัดเชียงทอง
(Xieng
Thong Temple)
เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์
และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา
กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว
บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง
ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง
มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า
สิม
เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก
หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น
เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17
ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า
เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น
ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ
เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน
หรือภาษาลาวว่า
โหง่
เป็นรูปเศียรนาค
ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี
จากนั้นนำท่านเข้าชม
วัดวิชุนราช
(Visounnarath Temple)
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี
พ.ศ.2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง
ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ
มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่
วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง
ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม
เป็นทรงโอคว่ำ
ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย
เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2
ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก)
ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457
ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ
พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ
ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง
ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ
ร้านอาหารเทพบุบฝา
ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบิน บางกอก แอร์เวยส์ เที่ยวบินที่
PG 944
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
|
|
|